นี่คือฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์ของทีมชาติแคนาดา ครั้งล่าสุดต้องย้อนไปเมื่อปี 1986 ที่ครั้งนั้นได้แค่เข้าร่วมแต่ไม่สามารถแม้แต่ผ่านเข้ารอบแรกได้ ส่วนการมาเล่นฟุตบอลโลก 2022 ในครั้งนี้ถือว่า แคนาดา ที่เส้นทางที่น่าเร้าใจไม่น้อยทีเดียวจากการคุมทีมของกุนซือชาวอังกฤษที่ค่อนข้างโนเนมอย่าง จอห์น เฮิร์ดแมน แต่พวกเขากลับคว้าอันดับที่ 1 ในรอบคัดเลือกโซนคอนคาเคฟชนิดตบหน้าขาใหญ่ในโซนอย่าง สหรัฐอเมริกา และ เม็กซิโก อย่างเหนือความคาดหมาย ทีมชุดนี้มีผู้เล่นที่น่าจับตาอย่าง ไซล์ ลาริน ที่ยิงระเบิดในรอบคัดเลือกรวมไปถึง โจนาธาน เดวิด ที่ผลงานในรอบคัดเลือกแจ่มไม่แพ้กัน และที่ลืมไม่ได้คือดาวติ๊กต๊อกที่เตะบอลได้อย่าง อัลฟอนโซ่ เดวีส์ จากบาเยิร์นมิวนิค พวกเขาโชคดีที่อยู่ในสายที่ไม่หินมาก และมีโอกาสที่จะลุ้นไปได้ไกลกว่าเมื่อ 36 ปีที่แล้ว

ปีศาจแดงแห่งยุโรปเข้ามาเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายทั้งหมด 14 ครั้งและครั้งที่พวกเขาทำผลงานได้ดีที่สุดคือในปี 2018 ที่ประเทศรัสเซียเป็นเจ้าภาพด้วยการคว้าอันดับที่ 3 มาครอง มาครั้งนี้พวกเขายังคงเชื่อมั่นในฝีมือของ โรเบร์โต มาร์ติเนซ กุนซือชาวสเปนที่คุมทีมมายาวนานตั้งแต่ปี 2016 และเขาคือกุนซือคนที่พาทีมไปได้ไกลที่สุด ซึ่งทีมเบลเยียมในชุดนี้ยังคงเป็นผู้เล่นในชุดโกลเด้นเจนเนอเรชั่นของพวกเขาอยู่นำทัพโดย ธิโบต์ คูร์ตัวส์ นายทวารจากเรอัล มาดริด แนวรับมี แยน แฟร์ทองเก้น ที่กลับไปค้าแข้งในบ้านเกิดกับ อันเดอร์เลชท์ ส่วนแดนกลางจับตรงไหนก็เจอแต่แข้งคุณภาพแต่ยุคนี้คงต้องยกให้ เควิน เดอบรอย จอมทัพจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และกองหน้ามี โรเมลู ลูกากู เป็นหัวหอกตัวความหวัง ซึ่งเป้าหมายในครั้งนี้ของพวกเขาคือไปให้ไกลกว่าครั้งที่แล้วก็ดูว่าจะไม่ใช่เรื่องที่เกินตัวและเป็นไปไม่ได้ซะทีเดียว

หลังจากที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1998 ทีมซามูไรสีน้ำเงินก็กลายเป็นขาประจำในฟุตบอลโลกเพราะไม่เคยพลาดการเข้ารอบสุดท้ายอีกเลย และที่กาตาร์จะเป็นฟุตบอลโลกสมัยที่ 6 ในประวัติศาสตร์ของพวกเขา ซึ่งที่ผ่านมา 5 ครั้งพวกเขาผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายได้ทั้งหมด 3 ครั้งด้วยกัน แต่ก็ไปได้ไกลที่สุดแค่นั้น ในครั้งนี้พวกเขายังคงใช้บริการกุนซือคนในชาติอย่าง ฮาจิเมะ โมริยาซุ ต่อไป พร้อมๆกับนักเตะที่เกือบทั้งชุดค้าแข้งในยุโรปนำทัพโดย มายะ โยชิดะ ปราการหลังกัปตันทีมที่เล่นกับชาลเก้04 แดนกลางมี ทาเคฟุสะ คุโบะ จากเรอัลโซเซียดัด คอยปั้นเกมริมเส้นร่วมกับ คาโอรุ มิโตมะ จากไบร์ทตัน และกองหน้าเป็น ยูยะ โอซาโกะ ซึ่งต้องบอกว่าพวกเขาค่อนข้างโชคร้ายที่ถูกจับมาอยู่ในสายสุดโหดแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสซะทีเดียว

หนึ่งในทีมลูกหนังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกการันตีด้วยการคว้าแชมป์โลกถึง 4 สมัย จากการผ่านเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายถึง 20 ครั้ง ซึ่งสองครั้งที่ไม่ได้เข้าไปเล่นคือครั้งแรกที่ยังไม่ได้เข้าร่วมอีกอีกครั้งในปี 1950 ที่ถูกแบน นอกจากนั้นผลงานในฟุตบอลโลกของพวกเขาคือสุดยอดเพราะผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศถึง 11 ครั้ง และเคยตกรอบแรกแค่ครั้งเดียวคือครั้งล่าสุดเมื่อปี 2018 ในครั้งนี้  ฮันซี ฟลิค อดีตมือขวาของโยอาคิม เลิฟ เข้ามาสานงานต่อด้วยผู้เล่นที่นำทีมโดย มานูเอล นอยเออร์ นายทวารจากบาเบิร์น มิวนิค แนวรับมี อันโตนิโอ รือดิเกอร์ จากเรอัล มาดริด และ แดนกลางอย่าง อิลคาย กุนโดกัน จากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และกองหน้าอย่าง โธมัส มุลเลอร์ ซึ่งภารกิจอย่างเดียวของพวกเขาที่กาตาร์นั้นไม่มีอะไรมากกว่าการไล่ล่าดาวดวงที่ 5 มาประดับบนตราอินทรีบนหน้าอกซ้ายของพวกเขาให้ได้เท่านั้น

แม้ว่าจะผ่านเข้ามาเล่นในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้เพียงแค่ 6 ครั้งแต่ผลงานที่ดีที่สุดของพวกเขาถือว่าใช้ได้เลยทีเดียวนั่นคือการเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายในปี 2014 ที่ประเทศบราซิลเป็นเจ้าภาพ แถมเซอร์ไพรซ์ด้วยการคว้าแชมป์กลุ่มทั้งๆที่มีทีมอย่าง อังกฤษ, อิตาลี และ อุรุกวัย แต่พวกเขาหักปากกาเซียนผ่านเข้ารอบไปได้อย่างเหลือเชื่อ ก่อนตกรอบด้วยน้ำมือของฮอลแลนด์ที่ต้องดวลถึงจุดโทษ ในครั้งนี้พวกเขานำทีมมาโดย หลุยส์ เฟอร์นานโด ซัวเรซ กุนซือชาวโคลอมเบีย นำทีมมาโดยคีย์แมนอย่าง เคยเลอร์​ นาบาส นายด่านดีกรีแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีก และตัวเก๋าอย่าง ไบรอัน รุยซ์ กัปตันทีม และ โจเอล กัมเบล อดีตดาวเตะอาร์เซน่อลที่ตอนนี้ค้าแข้งกับ คลับ ลีออน ในลีกเม็กซิโก แม้ชื่อชั้นจะดูเป็นรองทีมอื่นๆในกลุ่ม แต่อย่าลืมสิ่งที่พวกเขาทำไว้เมื่อตอนฟุตบอลโลก 2014 เป็นอันขาด